วันนี้ในสำนักงานเกิดเรื่องพิพาทกัน ระหว่างน้องที่เป็นแม่ลูกอ่อนกับน้องที่ไม่ใช่แม่ลูกอ่อน เรื่อง การแย่งพื้นที่ในตู้เย็น ซึ่งเป็นของส่วนกลางค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า
น้องแม่ลูกอ่อนจะต้องปั๊มนม แล้วแช่ไว้ในตู้เย็นช่องฟริซ ซึ่งในพื้นที่นั้นก็จะเป็นตะกร้ายาววางไว้ในตู้เย็น น้องก็จะวางเรียงไว้ ซึ่งทุกคนก็จะรู้ว่า อย่าไปยุ่งกับของเขา เพราะเขาจะมีเขียนวันที่ เวลา ลำดับถูง รายละเอียด ฯลฯ, อะไรของเขา ไม่งั้นเดี๋ยวน้องอาจท้องเสีย
ส่วนคนที่ไม่ใช่แม่ลูกอ่อน ซึ่งมีหลายคนมาก รวมทั้งเราด้วย ที่ชอบทานกาแฟสดเย็น และทุกเช้าก็จะมีการซื้อมาตุน แยกน้ำแข็ง แยกน้ำ พอบ่าย ๆ ก็จะนำมากิน และแน่นอนว่าต้องเอาน้ำแข็งไปแช่ไว้ในช่องฟลีช ร่วมกับนมของน้องด้วย แต่จะไม่วางไว้บนตะกร้านมเด็ดขาด เพราะกลัวถุงแตกมั่งล่ะ นมหกบ้างล่ะ และจะรู้ ๆ กันอยู่
ทีนี้ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ น้องแม่ลูกอ่อน ดันไปเอาแก้วที่ใส่น้ำแข็งมาวางไว้ช่องประตูตู้เย็น ทั้งที่ในช่องฟลีช ยังมีพื้นที่ว่าง และในตะกร้าใบนั้นก็ยังไม่เต็ม แต่น้องกลับวางถุงนมในลักษณะแนวนอน แนวราบไปกับพื้นตู้เย็น เต็มช่องฟลีชเลยค่ะ แหม...ถ้าน้อง
ยังไม่เก็บนี่จะถ่ายรูปมาให้ดู ทีนี้พอเจ้าของเขาจะกินกาแฟ น้ำแข็งก็ละลายหมดแล้ว กลายเป็นน้ำเปล่าเย็น ๆ ไม่มีน้ำแข็งใส่กาแฟเย็นละ แล้วกาแฟสดในถุงล่ะ จะกินกับอะไร ทำให้เจ้าของแก้วกาแฟหลายคนก็รวมกลุ่มบ่นกัน ในลักษณะที่ไม่พอใจ โดยพูดไปต่าง ๆ นานา เช่นว่า น่าจะแบ่งพื้นที่ให้กันบ้างเนอะ เพราะเป็นของส่วนกลาง แล้วของที่ใส่ไว้ในตู้เย็นก็เป็นของส่วนตัวของพนักงานกันทั้งนั้นแหล่ะ หรือน่าจะบอกกันก่อน จะได้กินกาแฟกันซะตอนนั้นเลย ฉันอยากกินกาแฟเย็นนะ ไม่ได้อยากกินน้ำเปล่า และอีกเยอะแยะ แต่ที่พูดมาคือว่า ไม่มีใครกล้าบอกน้องแม่ลูกอ่อนกันทั้งนั้นเลย เพราะเกรงใจความเป็นแม่ลูกอ่อน และสงสารเด็กด้วย ถ้าน้องท้องเสียขึ้นมาจริง ๆ ไอ้เราก็ตัวรู้เลย เสียอารมย์เหมือนกัน แต่ก็ป๊อด หลัง ๆ ก็เลยใช้วิธี ตอนเที่ยงออกทานข้าวก็ซื้อมา และกินเดี๋ยวนั้น อันนี้คือวิธีของเรา ตกบ่ายถ้าหิวก็เป็นกาแฟร้อน
แต่วันนี้ดันเกิดปัญหาขึ้นมาว่า แก้วน้ำแข็งที่น้องเขาเอาออกนั้น ดันกลายเป็นของหัวหน้าซะด้วยซิ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็หัวหน้าก็เคยโดนประจำ แต่ด้วยว่าเป็นแม่ลูกอ่อน ก็เลยหยวน ๆ กันไป ไม่กล้าว่า เดี๋ยวจะน้อยใจกันเปล่า ๆ พอวันนี้ แกจัดหนัก สงสัยแกจะไม่ไหวแล้วมั้ง แกก็เลยถามน้องว่า
หัวหน้า " เอาแก้น้ำแข็งของพี่ออกรึเปล่า"
น้อง "เออ......อ่า.......ค่ะ"
หัวหน้า "แล้วที่ผ่านมาคือหนูใช่มั้ย ที่เอาออกประจำน่ะ"
น้อง "เคอะ.....ค่ะ....."
หัวหน้า "ก็ในตะกร้ามันไม่เต็ม แล้วทำไมต้องวางนมไว้แบบนี้ แล้วเอาของคนอื่นเขาออกน่ะ ทีหลังบอกเขาก่อนนะ เขาจะได้ไม่ต้องกินน้ำกาแฟเปล่า ๆ แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ บอกพี่หน่อยได้มั้ย นมบูดรึเปล่า หรือยังไง คนอื่นเขาจะได้รู้เหตุผลกันบ้าง"
น้อง "บางทีนมมันบูดเพราะเปิดปิดตู้เย็นกันบ่อยเกินไปค่ะหัวหน้า แต่น้องก็ไม่ได้ท้องเสียนะคะ เพราะหนูจะทิ้ง แต่หนูเสียดายค่ะ"
หัวหน้า "พี่มั่นใจว่าอันนั้นคนอื่นเขารู้นะ เพราะเขาก็มีลูกกัน แต่พี่อยากให้หนูเห็นใจคนอื่นเขาด้วย ใจเขาใจเรา ทีหลังก็ขออนุญาตหรือบอกเขาก่อนก็ได้ อย่าเห็นแก่ตัวแบบนี้ "
(หมายเหตุ หัวหน้ามีลูก มีสามี ค่ะ ไม่ใช่สาวแก่ แม่หม้าย)
แล้วหัวหน้าก็เดินเข้าห้อง พร้อมกับเรียกแม่บ้านให้ไปซื้อน้ำแข็งมาใส่กาแฟเย็นของแก
อันนี้เราเข้าข้างหัวหน้าตรงที่ว่า ให้นึกถึงใจเขาใจเรา แต่เราก็สงสารความเป็นแม่ลูกอ่อนนี่แหล่ะค่ะ ก็เลยสงสัยว่า กรณีแบบนี้ มันเกิดขึ้นมาแล้วเนี๊ยะ ความมีน้ำใจเพื่อนร่วมงานมีให้เต็มที่อยู่แล้ว แต่น้องน่าเข้าใจที่หัวหน้าพูดรึเปล่าอันนี้ ไม่รู้เลย เพราะหลังจากที่หัวหน้าเขาว่า น้องก็เงียบค่ะ พร้อมกับเล็งมาที่เรา ว่าฟ้องรึเปล่า แต่เราก็เฉยนะคะ ห้ามความรู้สึกน้องไม่ได้อยู่แล้ว
ถามแม่ ๆ ค่ะ ถ้าเจอแบบนี้ เอาไงดี มาแชร์กันนะคะ เราจะได้เข้าใจมากขึ้นด้วย
ขอนุญาต แท็ค นมแม่ด้วยนะคะ เพราะเราว่ามันเกี่ยวกันนะคะ
เมื่อเกิดการแย่งพื้นที่กันขึ้นมา..........................................
เรื่องมีอยู่ว่า
น้องแม่ลูกอ่อนจะต้องปั๊มนม แล้วแช่ไว้ในตู้เย็นช่องฟริซ ซึ่งในพื้นที่นั้นก็จะเป็นตะกร้ายาววางไว้ในตู้เย็น น้องก็จะวางเรียงไว้ ซึ่งทุกคนก็จะรู้ว่า อย่าไปยุ่งกับของเขา เพราะเขาจะมีเขียนวันที่ เวลา ลำดับถูง รายละเอียด ฯลฯ, อะไรของเขา ไม่งั้นเดี๋ยวน้องอาจท้องเสีย
ส่วนคนที่ไม่ใช่แม่ลูกอ่อน ซึ่งมีหลายคนมาก รวมทั้งเราด้วย ที่ชอบทานกาแฟสดเย็น และทุกเช้าก็จะมีการซื้อมาตุน แยกน้ำแข็ง แยกน้ำ พอบ่าย ๆ ก็จะนำมากิน และแน่นอนว่าต้องเอาน้ำแข็งไปแช่ไว้ในช่องฟลีช ร่วมกับนมของน้องด้วย แต่จะไม่วางไว้บนตะกร้านมเด็ดขาด เพราะกลัวถุงแตกมั่งล่ะ นมหกบ้างล่ะ และจะรู้ ๆ กันอยู่
ทีนี้ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ น้องแม่ลูกอ่อน ดันไปเอาแก้วที่ใส่น้ำแข็งมาวางไว้ช่องประตูตู้เย็น ทั้งที่ในช่องฟลีช ยังมีพื้นที่ว่าง และในตะกร้าใบนั้นก็ยังไม่เต็ม แต่น้องกลับวางถุงนมในลักษณะแนวนอน แนวราบไปกับพื้นตู้เย็น เต็มช่องฟลีชเลยค่ะ แหม...ถ้าน้อง
ยังไม่เก็บนี่จะถ่ายรูปมาให้ดู ทีนี้พอเจ้าของเขาจะกินกาแฟ น้ำแข็งก็ละลายหมดแล้ว กลายเป็นน้ำเปล่าเย็น ๆ ไม่มีน้ำแข็งใส่กาแฟเย็นละ แล้วกาแฟสดในถุงล่ะ จะกินกับอะไร ทำให้เจ้าของแก้วกาแฟหลายคนก็รวมกลุ่มบ่นกัน ในลักษณะที่ไม่พอใจ โดยพูดไปต่าง ๆ นานา เช่นว่า น่าจะแบ่งพื้นที่ให้กันบ้างเนอะ เพราะเป็นของส่วนกลาง แล้วของที่ใส่ไว้ในตู้เย็นก็เป็นของส่วนตัวของพนักงานกันทั้งนั้นแหล่ะ หรือน่าจะบอกกันก่อน จะได้กินกาแฟกันซะตอนนั้นเลย ฉันอยากกินกาแฟเย็นนะ ไม่ได้อยากกินน้ำเปล่า และอีกเยอะแยะ แต่ที่พูดมาคือว่า ไม่มีใครกล้าบอกน้องแม่ลูกอ่อนกันทั้งนั้นเลย เพราะเกรงใจความเป็นแม่ลูกอ่อน และสงสารเด็กด้วย ถ้าน้องท้องเสียขึ้นมาจริง ๆ ไอ้เราก็ตัวรู้เลย เสียอารมย์เหมือนกัน แต่ก็ป๊อด หลัง ๆ ก็เลยใช้วิธี ตอนเที่ยงออกทานข้าวก็ซื้อมา และกินเดี๋ยวนั้น อันนี้คือวิธีของเรา ตกบ่ายถ้าหิวก็เป็นกาแฟร้อน
แต่วันนี้ดันเกิดปัญหาขึ้นมาว่า แก้วน้ำแข็งที่น้องเขาเอาออกนั้น ดันกลายเป็นของหัวหน้าซะด้วยซิ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็หัวหน้าก็เคยโดนประจำ แต่ด้วยว่าเป็นแม่ลูกอ่อน ก็เลยหยวน ๆ กันไป ไม่กล้าว่า เดี๋ยวจะน้อยใจกันเปล่า ๆ พอวันนี้ แกจัดหนัก สงสัยแกจะไม่ไหวแล้วมั้ง แกก็เลยถามน้องว่า
หัวหน้า " เอาแก้น้ำแข็งของพี่ออกรึเปล่า"
น้อง "เออ......อ่า.......ค่ะ"
หัวหน้า "แล้วที่ผ่านมาคือหนูใช่มั้ย ที่เอาออกประจำน่ะ"
น้อง "เคอะ.....ค่ะ....."
หัวหน้า "ก็ในตะกร้ามันไม่เต็ม แล้วทำไมต้องวางนมไว้แบบนี้ แล้วเอาของคนอื่นเขาออกน่ะ ทีหลังบอกเขาก่อนนะ เขาจะได้ไม่ต้องกินน้ำกาแฟเปล่า ๆ แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ บอกพี่หน่อยได้มั้ย นมบูดรึเปล่า หรือยังไง คนอื่นเขาจะได้รู้เหตุผลกันบ้าง"
น้อง "บางทีนมมันบูดเพราะเปิดปิดตู้เย็นกันบ่อยเกินไปค่ะหัวหน้า แต่น้องก็ไม่ได้ท้องเสียนะคะ เพราะหนูจะทิ้ง แต่หนูเสียดายค่ะ"
หัวหน้า "พี่มั่นใจว่าอันนั้นคนอื่นเขารู้นะ เพราะเขาก็มีลูกกัน แต่พี่อยากให้หนูเห็นใจคนอื่นเขาด้วย ใจเขาใจเรา ทีหลังก็ขออนุญาตหรือบอกเขาก่อนก็ได้ อย่าเห็นแก่ตัวแบบนี้ "
(หมายเหตุ หัวหน้ามีลูก มีสามี ค่ะ ไม่ใช่สาวแก่ แม่หม้าย)
แล้วหัวหน้าก็เดินเข้าห้อง พร้อมกับเรียกแม่บ้านให้ไปซื้อน้ำแข็งมาใส่กาแฟเย็นของแก
อันนี้เราเข้าข้างหัวหน้าตรงที่ว่า ให้นึกถึงใจเขาใจเรา แต่เราก็สงสารความเป็นแม่ลูกอ่อนนี่แหล่ะค่ะ ก็เลยสงสัยว่า กรณีแบบนี้ มันเกิดขึ้นมาแล้วเนี๊ยะ ความมีน้ำใจเพื่อนร่วมงานมีให้เต็มที่อยู่แล้ว แต่น้องน่าเข้าใจที่หัวหน้าพูดรึเปล่าอันนี้ ไม่รู้เลย เพราะหลังจากที่หัวหน้าเขาว่า น้องก็เงียบค่ะ พร้อมกับเล็งมาที่เรา ว่าฟ้องรึเปล่า แต่เราก็เฉยนะคะ ห้ามความรู้สึกน้องไม่ได้อยู่แล้ว
ถามแม่ ๆ ค่ะ ถ้าเจอแบบนี้ เอาไงดี มาแชร์กันนะคะ เราจะได้เข้าใจมากขึ้นด้วย
ขอนุญาต แท็ค นมแม่ด้วยนะคะ เพราะเราว่ามันเกี่ยวกันนะคะ